ทุกเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของจังหวัดลำพูนซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเมืองหริภุญชัยในสมัยพระนางจามเทวี ราชธิดาของกษัตริย์เมืองละโว้ วิถีแบบชาวบ้านและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งหมดถูกบรรจงถ่ายทอดลงบนผืนผ้ายกดอกลำพูน เสมือนเป็นบันทึกที่คนท้องถิ่นใช้บอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตผ่านทุกเส้นไหมที่ถูกถักทอที่แต่ละเส้นต้องใช้ฝีมือ เวลา ความใส่ใจในทุกรายละเอียดของเส้นไหมก่อนจะถูกถ่ายทอดเป็นผืนผ้าอันวิจิตรตระการตาให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น ได้ค้นหา ได้ศึกษาตำนานมรดกจากภูมิปัญญาของคนไทยในชื่อ ผ้ายกดอกลำพูน
ใยใหมแต่ละเส้นที่ถูกถักทออย่างปราณีตแบบล้านนาแต่ละเส้นสายล้วนประสานสอดรับเกิดเป็นลวดลายอันวิจิตร ก่อนถูกร้อยเรียงกลาย เป็นผืนผ้ายกดอกอันทรงคุณค่า นับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของคนลำพูนซึ่งแต่ละเส้นไหมเต็มไปด้วยเรื่องราว กลิ่นไอ ที่สืบทอดจากรุ่น สู่รุ่นนับพันปีและแฝงไว้ซึ่งประวัติอันยาวนานของนครหริภุญชัย หรือจังหวัดลำพูนของไทยในปัจจุบัน
ในยุกต์แรกความรู้ด้านการทอผ้าจะจำกัดเฉพาะขุนนางชั้นสูงก่อนถูกเผยแพร่สู่ภายนอกในสมัยของเจ้าดารารัศมีพระธิดาในพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ ผู้ครองนครเชียงใหม่ถ่ายทอดให้กับเจ้าหญิงส่วนบุญ และเจ้าหญิงลำเจียก ชายาและพระธิดาผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย ถือเป็นอีกจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูการคิดค้นลวดลายอันวิจิตร ทำให้นับร้อยปีที่ผ่านมา ลำพูนได้กลายเป็นศูนย์กลางการทอผ้ายกดอกนำไปสู่การเป็นมรดกทางหัถกรรมที่สืบทอดนับรุ่นสู่รุ่น
จุดเฟื่องฟูสูงสุดคือการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้นำเอาผ้าไหมยกดอกลำพูนมาตัดเย็บเป็นชุดประจำชาติ ด้วยความงดงามที่คงความปราณีตในการยกเส้นไหมและข่มเส้นไหมเพื่อถักทอให้เกิดลวดลายอ่อนช้อยคงเอกลักษณ์จุดนี้เองทำให้เป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลกรู้จัก และได้รับการรับรองแหล่งผลิต หรือ GI ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้เอง จึงได้นำเอาผ้าฝ้ายยกดอกมาทำเป็น กระเป๋าทำให้เกิดความโดดเด่นอีกรูปแบบหนึ่งของผ้ายกดอกลำพูนในการพัฒนาสร้างสรรค์ ต่อยอดจนได้รับการยอมรับถึงขั้นที่สามารถส่งออกสู่สากล
No comments:
Post a Comment